ดงตาล (อนุรักษ์ตาลโตนด)
 

       “ตาลโตนด”เป็นพืชวงศ์เดียวกับมะพร้าว และปาล์ม มีอายุยืนประมาณ 80-100 ปี โตเต็มที่สูงได้กว่า 18- 25 เมตร เริ่มให้น้ำตาล และผลได้เมื่ออายุประมาณ 10-15 ปี เป็นพืชที่ขึ้นได้บนดินทุกชนิด ทนแล้ง และน้ำท่วมได้ดี ไม่มีผลต่อพืชอื่นๆรอบข้าง เช่น นาข้าว สวนผัก ทุกส่วนของตาลโตนดล้วนสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งสิ้น
ขั้นตอนการปลูกต้นตาล โดยการใช้ต้นกล้าที่มีอายุ 5 ปีขึ้นไปนำมาปลูก
1.  นำผลตาลโตนดสุกมาปอกเปลือกนอกออกแล้วขยำเอาเนื้อตาลโตนดออก
2.  นำผลตาลโตนดทั้งผลไปแช่น้ำ ประมาณ 20 วัน
3.  นำผลตาลโตนดขึ้นมาแล้วบ่มใส่กระสอบประมาณ 15 วัน เมล็ดจะเริ่มงอกรากออกมา
4.  นำไปปลูกในถุงดำที่มีดินปลูกผสมกับปุ๋ยคอก
5.  วางเมล็ดที่เตรียมไว้ลงไปอย่าให้ปลายรากหักและให้วางแบบเฉียง 45 องศา
6.  รดน้ำด้วยระบบน้ำหยด

ข้อดีตาลโตนด
ผลตาล
·  “ หัวตาล ” นำมาประกอบอาหาร เช่นแกงคั่วหัวตาล
·  “ เมล็ดตาล” รับประทานสดๆหรือทำลูกตาลลอยแก้ว
·  “ ผลแก่” มีเนื้อสีเหลือง กลิ่นหอม นำไปทำขนมเช่น ขนมตาล
ช่อดอก
·  มีน้ำหวานเรียกว่า น้ำตาลสด ใช้รับประทานสดๆได้ ทำเป็นน้ำตาลปึก หรือน้ำตาลปี๊บก็ได้กาบตาลหรือทางตาล
·  ใช้ทำฟืน เป็นเชื้อเพลิง
·  เส้นใยกาบตาล ใช้ทำเชือก เครื่องจักสานต่างๆ เช่น หมวก กระเป๋า ไม้กวาด
ใบตาล
·  ใช้ในงานก่อสร้าง มุงหลังคา กั้นฝาบ้าน
·  ใช้หมักทำปุ๋ย

ลำต้น
·  ใช้สำหรับงานก่อสร้าง เช่น เสาเรือน กระดานพื้นบ้าน เสาสะพาน
·  ใช้ประดิษฐ์ของใช้ต่างๆ เช่น ขันตักน้ำ เครื่องเล่น โต๊ะ ม้านั่ง เก้าอี้ กล่องใส่ของ และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ

สรรพคุณตาลโตนด
·  ช่อดอก น้ำตาลสดใช้เป็นยาระบาย ช่อดอกที่ยังอ่อนนำมาฝานต้ม เป็นยาบำรุงหัวใจ แก้ร้อนใน ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ ขับพยาธิ
·  ก้านตาล และใบตาล นำมาเผาไฟแล้วคั้นเอาน้ำดื่มสำหรับเป็นยาแก้ท้องร่วง
·  รากตาลโตนด รากนำมาต้มดื่ม แก้ไข้ แก้ร้อนใน กระหายน้ำ แก้ซางเด็ก บำรุง และใช้ขับพยาธิ

 


Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้