นาอินทรีย์ ไม่ใช้สารเคมี
การทำนาอินทรีย์ทำไม่ยาก อีกทั้งยังช่วยลดการใช้สารเคมี ลดต้นทุน ลดการใช้สารฆ่าแมลง และสารกำจัดวัชพืช ทำให้ปลอดภัยทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค และปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม เพียงมีการจัดการที่ดีทั้งวิธีปลูกและขั้นตอนดูแลบำรุง ป้องกันกำจัดวัชพืช โรคและแมลง โดยใช้ปัจจัยการผลิตพืชอินทรีย์ ไม่ว่าจะเป็น ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยหมัก สมุนไพรสำหรับกำจัดโรคพืชและแมลง จุลินทรีย์ที่ใช้ในการเกษตร เป็นต้น
การทำนาอินทรีย์ทำไม่ยาก อีกทั้งยังช่วยลดการใช้สารเคมี ลดต้นทุน ลดการใช้สารฆ่าแมลง และสารกำจัดวัชพืช ทำให้ปลอดภัยทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค และปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม เพียงมีการจัดการที่ดีทั้งวิธีปลูกและขั้นตอนดูแลบำรุง ป้องกันกำจัดวัชพืช โรคและแมลง โดยใช้ปัจจัยการผลิตพืชอินทรีย์ ไม่ว่าจะเป็น ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยหมัก สมุนไพรสำหรับกำจัดโรคพืชและแมลง จุลินทรีย์ที่ใช้ในการเกษตร เป็นต้น
การใช้ปุ๋ยอินทรีย์
ในการปลูกข้าว ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือสารอาหารสำหรับให้ข้าวเจริญเติบโต ดังนั้นการเลือกใช้ปุ๋ยอินทรีย์สำหรับนาข้าวจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยจะต้องเลือกปุ๋ยอินทรีย์ที่ผ่านการขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร เพื่อให้ได้ปุ๋ยที่มีคุณภาพ เหมาะสมต่อการนำมาใช้
ปุ๋ยอินทรีย์ หัวใจหลักของการทำเกษตรอินทรีย์ มีข้อดีดังนี้
- มีปริมาณอินทรียวัตถุสูง ช่วยในการปรับปรุงโครงสร้างดิน ให้ร่วนซุย สามารถระบายน้ำและถ่ายเทอากาศได้ดี เป็นที่อยู่ให้กับจุลินทรีย์ในดิน ช่วยให้ดินอุดมสมบูรณ์มากขึ้น
- มีธาตุอาหารครบถ้วนตามที่พืชต้องการ ทั้งธาตุอาหารหลัก ธาตุอาหารรอง และธาตุอาหารเสริม
- มีจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ช่วยย่อยสลายธาตุอาหารที่ตกค้างในดินให้พืชสามารถดึงนำไปใช้ได้เรื่อยๆ
- ช่วยปรับค่าความเป็นกรดด่างของดิน ให้เหมาะสมต่อการปลูกพืช
เคล็ดลับในการใส่ปุ๋ย : หากเราเข้าใจสภาพของดินว่ามีความอุดมสมบูรณ์มากน้อยแค่ไหน และดินของเราขาดธาตุอาหารอะไร จะช่วยให้การใส่ปุ๋ยมีประสิทธิภาพมากขึ้น
อัตราการใส่ปุ๋ยอินทรีย์ในนาข้าว
สูตรเขียว เร่งการเจริญเติบโต
- เตรียมดิน ทำเทือก : ไถพรวนไปกับดิน อัตรา 100 - 150 กก./ไร่
- ระยะแตกกอ (20-25 วัน) : หว่านปุ๋ย อัตรา 50 - 100 กก./ไร่
- ระยะตั้งท้อง (40-45 วัน) : หว่านปุ๋ย อัตรา 50 - 100 กก./ไร่
สามารถปรับเพิ่มปริมาณการใช้ได้หากสภาพดินไม่ดี
สูตรแดง เร่งผลผลิต
- ระยะรับรวง (60-75 วัน) : หว่านปุ๋ย อัตรา 50-100 กก./ไร่
สามารถปรับเพิ่มปริมาณการใช้ได้หากสภาพดินไม่ดี
อีกหนึ่งผู้ช่วยในนาข้าว "แหนแดง"
แหนแดง (Azolla) เป็นเฟิร์นน้ำเล็กๆ ชนิดหนึ่ง ดำรงชีวิตแบบพึ่งพาอาศัยกันกับสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน (blue green algae) ทำให้สามารถตรึงไนโตรเจนจากอากาศได้ จึงมีธาตุไนโตรเจนเป็นองค์ประกอบสูง และเพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุ และปริมาณของจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์โดยเฉพาะจุลินทรีย์กลุ่มส่งเสริมการเจริญเติบโต นอกจากนี้ยังช่วยลดปริมาณวัชพืชในนาข้าวได้อีกด้วย
แหนแดง (Azolla) เป็นเฟิร์นน้ำเล็กๆ ชนิดหนึ่ง ดำรงชีวิตแบบพึ่งพาอาศัยกันกับสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน (blue green algae) ทำให้สามารถตรึงไนโตรเจนจากอากาศได้ จึงมีธาตุไนโตรเจนเป็นองค์ประกอบสูง และเพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุ และปริมาณของจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์โดยเฉพาะจุลินทรีย์กลุ่มส่งเสริมการเจริญเติบโต นอกจากนี้ยังช่วยลดปริมาณวัชพืชในนาข้าวได้อีกด้วย
ไม่ใช้สารเคมีข้าวก็งอกงามดีได้
กระบวนการผลิตข้าวตั้งแต่เริ่มปลูกจนเก็บเกี่ยวและจัดจำหน่าย หากเราดูแลเอาใจใส่ตลอดการเพาะปลูกในเรื่องของดิน และโรคและแมลง และการปลูกตามฤดู ก็สามารถทำให้ข้าวออกรวงงอกงามผลผลิตสูงได้ แถมปลอดภัยจากสารเคมี สบายใจทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค
กระบวนการผลิตข้าวตั้งแต่เริ่มปลูกจนเก็บเกี่ยวและจัดจำหน่าย หากเราดูแลเอาใจใส่ตลอดการเพาะปลูกในเรื่องของดิน และโรคและแมลง และการปลูกตามฤดู ก็สามารถทำให้ข้าวออกรวงงอกงามผลผลิตสูงได้ แถมปลอดภัยจากสารเคมี สบายใจทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค
Powered by
MakeWebEasy.com